ไปเยี่ยมสามเจ้าเมือง(ลาว)

                  ท่านปลัดจังหวัด เจ้านายผมเพิ่งย้ายมาอยู่ไม่นาน ได้ร่วมประชุมกับแขวงห้วยทรายครั้งเดียว เมื่อตอนประชุมกองเลขานุการคณะกรรมการรักษาความสงบชายแดนไทยลาว ครั้งนั้นทำให้ท่านประทับใจมาก ทั้งผู้คนและวัฒนธรรม พอหลังเลือกตั้งมีเวลาบ้าง ท่านก็เลยอยากพานายอำเภอที่มีชายแดนติดกับประเทศ สปป.ลาว ไปเยี่ยมเยือนทำความรู้จักกับเจ้าเมืองที่ชายแดนติดกับเรา คือ เมืองปากทา เมืองห้วยทรายและเมืองต้นเผิ้ง อ้อ..ขอเกริ่นนิดนึง ประเทศ สปป.ลาว เนี่ยเค้าแบ่งการปกครองออกเป็นแขวงต่างๆ ซึ่งคล้ายกับจังหวัดของเรานี่แหละ มีเจ้าแขวงเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด แต่ละแขวงก็แบ่งเป็นเมือง ก็คล้ายกับอำเภอของเรา มีเจ้าเมืองเป็นหัวหน้าปกครอง บางท่านเผลอเรียกว่าเจ้าเมืองว่าเป็นนายอำเภอของลาว อยากบอกว่าไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการปกครองคนละระบบกัน ของเค้าเป็นระบบสังคมนิยม ดังนั้น เจ้าแขวงหรือเจ้าเมืองจึงเป็น CEO ในแต่ละระดับ มีอำนาจสั่งการได้ทุกหน่วยงาน ทั้งทหาร ตำรวจ(ลาวเรียก ปกส.เมืองหรือแขวง)ลงสมัครเป็น ส.ส.(สมาชิกสภาแห่งชาติ) ได้ อย่างเจ้าเมืองปากทา เพิ่งได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา(เลือกทุก 5 ปี ทั้งประเทศมี 132 คน) แขวงห้วยทราย มี 5 เมืองนอกจาก 3 เมืองที่ว่าแล้ว ก็มีเมืองเมิง กับเมืองผาอุดม อยู่ลึกเข้าไปทางหลวงพระบาง ซึ่งไม่ได้ติดต่อกับชายแดนไทย และการเดินทางค่อนข้างลำบาก จึงไม่ค่อยรู้จักกัน

ท่านศรีสุพรรณ เจ้าเมืองห้วยทรายมอบอุปกรณ์กีฬาและพันธุ์ปลาทักทายอย่างเป็นทางการDSC05683อาคารข้างหลังคือห้องว่าการเมืองปากทา

       พอถึงวันที่ 13 กรกฏาคม ทางเรานำพันธุ์ปลาไปมอบให้ด้วยหนึ่งแสนตัวตามที่ทางฝ่ายลาวร้องขอมา เนื่องจากตรงกับวัน"ปล่อยปลาแห่งชาติ" นอกจากนี้ก็มีอุปกรณ์กีฬาจากนั้นก็ไปถวายสังฆทานที่วัดจอมเขาก่อนที่จะไปทานอาหารกลางวันโดยมีท่านศรีสุพรรณ เจ้าเมืองห้วยทราย เป็นเจ้าภาพและเจ้ามือ

  DSC05698 DSC05697

                 นี่ก็เป็นอาหารในมื้อเที่ยง ส่วนแก้วเล็กๆ สำหรับใส่ "ก๋งสะเด็น" สุราประจำถิ่น คือเหล้าต้มบ้านเรานี่แหละดองกับหญ้าที่เรียกว่าก๋งสะเด็น รสชาดออกขมนิดๆ แต่ดับกลิ่นเหล้าได้ชะงัดถือเป็นธรรมเนียมของที่นี่ มาเมืองลาวก็ต้องนำก๋งสะเด็นมาต้อนรับขับสู้ผู้มาเยือน ขอบอกว่าจอกเล็กๆ นี่แค่จอกแรกก็ทำเอามึนไปไม่น้อย

             ออกจากเมืองห้วยทรายประมาณบ่ายโมง เปลี่ยนมานั่งรถตู้ที่ล้อโตกว่าคันเดิม ซึ่งท่านหงแก้ว หัวหน้าห้องว่าการพัวพันต่างประเทศ เห็นว่าฝนตกเส้นทางที่จะไปเมืองปากทา อาจมีหลุมลึกเกรงว่ารถจะติดหล่ม ที่จริงระยะทางแค่ 38 กิโลเมตร แต่ต้องใช้เวลาชั่วโมงครึ่ง ทางเจ้าเมืองและคณะรออยู่ก่อนแล้วที่หอประชุมเมืองปากทา ใช้เวลาพบปะพูดคุยไม่ได้มากเพราะต้องเดินทางย้อนกลับทางเดิมคือเมืองห้วยทรายเพื่อไปเมืองต้นเผิ้งอีก ระยะทางจากนี่ 38+37=75 กิโลเมตร ในที่สุดก็ถึงเมืองต้นเผิ้งตอนหกโมงเย็นเศษๆ ท่านจอมสี เจ้าเมืองต้นเผิ้งและคณะ ต้อนรับเต็มที่ หลังพูดคุยและเล่นเปตอง จบรายการด้วยการทานอาหารเย็นร่วมกัน อย่างว่าแหละ เครื่องดื่มมีครบทั้งไวน์มะขาม ยาดองจากจีนเพื่อสุขภาพ เบียร์ลาว แบล็คลาเบล แต่ก็หนีไม่พ้น "บักก๋งสะเด็น" อยู่ดี เรียกว่าครบทุกสูตรละครับพี่น้องงงง

พบปะหารือกับคณะ จนท.เมืองต้นเผิ้งเจ้าเมืองต้นเผิ้งและคณะเครื่องดื่มในงานเลี้ยง จนท.ของเมืองห้วยทราย

            ออกจากที่จัดเลี้ยงเกือบสามทุ่ม ทางแขวงบ่อแก้วประสานให้พักที่ เขตเศรษฐกิจพิเศษต้นเผิ้ง เป็นโรงแรมของกลุ่มบริษัทดอกงิ้วคำ ที่พักสะอาดสะอ้าน มาตรฐานตามแบบจีน พิสูจน์ได้ว่าจะมีแปรงสีฟันและยาสีฟันคอลเกตจีนเตรียมไว้ให้ ใครไม่ง่วงก็ไปเที่ยวต่อได้ หรือจะไปเสี่ยงโชคก็ลองดู ส่วนผมเดินเที่ยวดูได้พักเดียว เจอมิสเตอร์จ้าว เหว่ย ผู้บริหารสูงสุดของกลุ่มบริษัทฯ แต่ไม่ได้คุยกันเพราะมันดึกมากแล้ว(ตอนหลังนึกได้ว่าที่นี่ไม่มีเวลา เค้าเปิดสี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้ว) เลยขออนุญาตกลับมานอนก่อน ตอนเช้าไม่มีกิจกรรมอะไรทานอาหารเช้าก็เดินทางกลับเพราะมีงานถวายเทียนเข้าพรรษาที่วัดเจ้าคณะอำเภอในตอนบ่าย ท่านหงแก้ว หัวหน้าห้องว่าการพัวพันต่างประเทศมาส่งที่ท่าเรือด้วยไมตรีจิตเหมือนเคย

ถ่ายหน้าตึก King Romanceแปรงและยาสีฟันด้านหน้าดูตัวอักษาจีนให้ชัดๆ เส้นสีฟ้าคือเส้นเดินทางเยี่ยมยาม

Comments