งานเทศกาลพืชกสิกรรม :เมืองห้วยทราย สปป.ลาว
เมืองห้วยทรายมีหนังสือแจ้งขอเชิญไปร่วมงานเทศกาลพืชกสิกรรมและขอเชิญกลุ่ม Otop นำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายด้วย รายละเอียดบอกว่างานนี้จัดปีละครั้ง และได้จัด มา ๕ ครั้งแล้ว ครั้งนี้้เป็นครั้งที่ ๖ จัดงานระหว่างวันที่ ๒๔ – ๒๖ มกราคม ๒๐๑๒ แต่สถานที่ออกไปจัดที่โรงเรียนบ้านด่าน ห่างจากเมืองห้วยทรายตามเส้นทางก็เกือบ ๒๐ กิโลเมตร แต่ไปทางฝั่งไทยจะสะดวกที่สุดเพราะข้ามที่จุดผ่อนปรนบ้านแจมป๋อง อ.เวียงแก่น จะเป็นบ้านด่าน แล้วทางเมืองห้วยทรายจะนำรถมารับไปที่โรงเรียนบ้านด่านอีกไม่ถึงกิโลเมตร เหตุที่ไม่ข้ามที่ อ.เชียงของ ก็เพราะอย่างแรกต้องผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง อีกอย่างระยะทางไกล ยิ่งเรามีสินค้า ผลิตภัณฑ์ไปด้วยพะรุงพะรังครับ ขนาดผมเคยนั่งรถตู้ไปแล้ว เข็ดครับ ถนนส่วนใหญ่กำลังก่อสร้าง ยังเป็นหลุมเป็นบ่ออยู่ กว่าจะถึงคาดว่าคงสะบักสะบอมแน่ๆ แล้วกลุ่มโอทอปส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแม่บ้าน อายุก็ไม่น้อยแล้ว เป็นไรขึ้นมาก็ยุ่งแน่
พูดถึงกลุ่มโอทอปซะหน่อย ทีแรกเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบบอกว่าไม่มีกลุ่มไหนอาสาไป เพราะไม่มีค่ารถ ค่าเบี้ยเลี้ยง ฯลฯ ให้กลุ่ม เค้าก็มารายงานว่าควรจัดงบฯ ให้หน่อย ผมบอกไปว่าเราไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณ เพียงแต่ทางเมืองห้วยทรายเค้าขอความร่วมมือมา แต่ถ้าเค้าไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร พอก่อนจะถึงวันงานซัก ๕ วันท่านนายอำเภอฯ โทรฯ บอกให้เป็นผู้แทนต้อนรับคณะกรรมการที่จะมาตัดสินการประกวดกำนันแหนบทองคำที่ตำบลห้วยซ้อให้ด้วย เพราะท่านติดราชการ เลยทำให้ได้พบกลุ่มโอทอปที่นั่น ผมเลยถือโอกาสชวนมาแอ่วเมืองลาวซะเลย บอกว่าจะเอารถมารับ-ส่ง ให้ห่อข้าว พกเงินแล้วก็เอาสินค้าไปด้วย ปรากฏว่าเค้าตกลง ผมก็ให้เค้าจดชื่อกลุ่มสินค้า เบอร์โทร หัวหน้ากลุ่ม ไว้เรียบร้อย พอถึงวันที่จะไป ท่านกำนันโทรฯ มาแต่เช้า บอกรีบๆ มา กลุ่มเค้ารอที่จะไปเมืองลาวอยู่ที่บ้านกำนันนี่แหละ ผมก็บอกไปว่ารอแป๊บนึง
ผมไปรับกลุ่มโอทอปแล้วข้ามไปฝั่งลาว ส่วนท่านนายอำเภอฯ กับคณะให้ตามมาทีหลัง เพราะต้องไปดูสถานที่จัดวางสินค้า ฯลฯ พร้อมกับประสานกับชมรมเรือไทยที่บ้านด่าน กับด่านภาษี(ลาว) ที่นำคนข้ามไป รวมทั้งให้รถมารับกลุ่มเราด้วย ในรูปจะเห็นคณะปีนขึ้นฝั่งอย่างสาหัสสากรรจ์ เพราะสื่อสารกันผิดพลาด ทางลาวจะเอารถมารับตรงท่าเรือ (ซึ่งมีสองแห่ง มารู้ภายหลัง) ส่วนท่าที่เราพากันปีนขึ้นมา เป็นด่านที่มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ ซึ่งเราต้องมาแจ้งรายชื่อกับเจ้าหน้าที่ที่นี่ ทำให้ตอนแรกทำให้คนขับรถของลาว(เมืองห้วยทราย) หาไม่เจอต้องโทรฯ ตามกันวุ่น
จัดสถานที่ให้กลุ่มโอทอปเสร็จ ทางท่านเจ้าเมืองห้วยทรายก็มาเยี่ยมและถ่ายรูปร่วมกับคณะเรา ภาพแรกก่อนเปิดงาน ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อ อีกภาพเปลี่ยนเสื้อหลังพิธีเปิดงาน โปรดสังเกตุว่าจะมีเข็มกลัดติดหน้าอกของผู้มาร่วมงาน ซึ่งเป็นโลโก้งานในภาพแรกเป็นรูปข้าวโพด ก็เข้าใจได้ว่าคงคล้ายๆกับที่ อ.เวียงแก่น มีการจัดงานส้มโอประจำปีนั่นแหละ ที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่ถือพานใส่เข็มกลัดและมาปักให้ผู้ร่วมงาน อีกคนถือขันเงินสำหรับผู้ร่วมงานจะได้ร่วมบริจาคเงินให้ก็เหมือนเป็นสปอนเซอร์ให้งั้นแหละ
พักใหญ่ท่านเจ้าเมือง เอ้ย..ไม่ใช่ ท่านนายอำเภอฯ ก็โทรฯ มาบอกได้พาคณะมารออยู่ฝั่งไทยเตรียมจะข้ามมาพร้อมกันกับท่านนายอำเภอเวียงแก่นด้วย ผมก็เลยพารองเจ้าเมืองฯ กับรถมาเตรียมรับอยู่ตรงท่าเรือฝั่งลาว ระหว่างยืนรอคณะฯ ก็ถ่ายรูปกับน้องๆ ที่เตรียมมอบช่อดอกไม้ให้ท่านนายอำเภอทั้งสองท่านไปพลางๆ
หลังพิธีเปิดก็มีการแสดงๆ ต่างๆ เหมือนบ้านเรา ที่เป็นไฮท์ไลท์ของงานคือการประกวดนางสาวขวัญใจชาวกสิกรรม ดูจากสูจิบัตรของงานจึงทราบว่ามีผู้เข้าประกวดถึง ๑๕ คน นับว่าเยอะทีเดียว โดยหน่วยงานต่างๆ ภายในเมืองห้วยทรายเป็นผู้ส่งเข้าประกวด ซึี่งทำให้หนุ่มๆ ชาวไทยกระชุมกระชวย ณ บัดดล
ข้อมูลจากสูจิบัตรจะบอกประวัติของนางงามแต่ละคน อย่างหมายเลข ๖ นี่อายุ ๑๗ ปี อาชีพชาวสวน อนาคตอยากเป็นครู อุปถัมภ์โดยห้องการการค้าเมือง การแต่งกายเข้าใจว่าแต่งตามกลุ่มชาติพันธุ์ ส่วนคำถามส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับความรู้ด้านกสิกรรม แต่ว่าบางคำถามนี่ก็โหดนะผมว่า อย่างถามเรื่องชลประทาน การเก็บเกี่ยวพืชต่างๆ แต่ก็มีเรื่องการเมืองการปกครองอยู่นะ ที่ชอบใจคือคำถามว่าเอกลักษณ์วัฒนธรรมอันดีงามที่บ่งบอกถึงความเป็นแม่ยิงลาวที่ดีอย่างไร คำตอบในสูจิบัตรบอกว่า เอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นแม่ยิงลาวที่ดี คือมีกิริยาอ่อนหวาน นุ่งผ้าซิ่น เกล้าผม อีกอย่างคือห่มสะไบ (ภาษาลาวอ่านเบี้ยงแพ)
หลังพิธีการเสร็จ เป็นธรรมเนียมครับ มีการพัฒนาสัมพันธ์กันต่อ นางงามก็มาร่วมสร้างบรรยากาศด้วย ประทับใจจนผมลืมกลุ่มโอทอปที่พามาด้วยไปชั้่วขณะ พอออกไปดู อ้าว..ป้าๆ แกพัฒนาสัมพันธ์ก้าวหน้าไปกว่าผมเยอะ เต้นท์ที่อยู่ติดกันก็มารวมเป็นวงเดียวกัน นั่งคุยกันสนุกสนาน บอกว่าวันหลังให้ผมพามาอีกเน้อ เป็นซะงั้น
Comments