พาลูกเลาะชายแดนจีน-ลาว(3)

ตอนบ่ายเจ้าภาพพาไปดูเมืองหล้าหรือเมืองล่า (ชื่อคล้ายกับเมืองลา ของจังหวัดเชียงตุงที่ประเทศพม่า อย่าสับสน) ที่น่าสนใจคือถนน ที่เจาะผ่านภูเขาทำให้เป็นทางตรง ประหยัดเวลาได้เยอะ อีกอย่างคือการเลิกทำนาหันมาปลูกกล้วยไข่แทน สองข้างทางจะมีสวนกล้วยไข่สุดลูกหูลูกตา ไม่มีภาพประกอบ เพราะใช้กล้องวีดีโอถ่ายแทน จากนั้นเค้าพาไปดูสวนป่า จำชื่อไม่ได้เป็นของเอกชนเก็บค่าเข้าชมหลายตังอยู่ ที่ไม่ทราบเพราะทางเจ้าภาพเค้าอำนวยความสะดวกให้ ซึ่งก็คือป่าชุมชนบ้านเรานั่นแหละ เดินดูป่าไปเรื่อยๆ มีสะพานแขวน เพื่อเอาไว้ทดสอบกำลังใจ อยู่สูงระดับปลายยอดไม้ ถ้าอยู่ตรงกลางสะพานจะมองไม่เห็นข้างล่าง เพราะต้นไม้ทึบบังอยู่ ที่พบอยู่ตลอดทางคือซุ้มถ่ายรูป ที่แอบถ่ายเราไว้ พอเราเดินผ่าน เค้าก็จะเอาให้ดู หากตกลงอยากได้ภาพไหน เค้าก็จะปริ้นท์ให้ ราคาใบละ 50-100 บาท

อาหารเย็นรับประทานที่ร้านอาหารนอกเมือง เส้นทางกลับโรงแรมนั่นแหละ บรรยากาศประมาณสวนอาหารชายทุ่ง เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปร้านอาหารไว้ เค้าทำซุ้มเป็นหลังๆ ไป ยกสูงเล็กน้อย โต๊ะอาหารแบบบ้านเรา ไม่ใช้นั่งขันโตกเอา ความที่ลักษณะกลม ทำให้เสริมที่นั่งได้เยอะ วันนี้ รองเลขาธิการฯ (คนที่ใส่เสื้อแพรจีนแขนสั้นสีเหลือง) ขับรถมาเอง ร่วมทานด้วย ส่วนผู้หญิงนั่งใกล้ๆ แนะนำแล้วในตอนต้น รองเลขาฯ ดื่มเก่งจริงๆ ขนาดดื่มเยอะเนี่ย แกขับกลับเองได้สบายๆ

 

เอารูปอาหารมาให้ดูประกอบ ซึ่งก็คือกับข้าวพื้นบ้านของเราแหละ น้ำพริกกับหน่อขม แกงอ่อม หมูทอด สำหรับเมนูย่อยอาหาร มีเหล้าต้มเองให้เลือกแทนเบียร์จีน แต่สำหรับ Enter ขอเป็นโค้กจีนละกัน/.